เบรนฟิตเนส (Brain Fitness)

ขยับไง IQ เพิ่ม

โครงการขยับไง IQ เพิ่ม หรือเบรนฟิตเนส เป็นโครงการที่มูลนิธิเพื่อนศิลปะ ได้ออกแบบผ่านการเคลื่อนไหว อย่าง ถูกต้อง เพื่อกระตุ้น เซลล์ สมอง แต่ละตำแหน่ง เพื่อ ทำให้สมองเกิดภาวะการทำงานอย่างสมดุลเพิ่มประสิทธิภาพ หรือเพิ่ม IQ นั่นเอง

โครงการนี้เหมาะสมกับคนทุกวัย เพราะ สมองของ มนุษย์ สร้างเซลล์ อย่างมากมายในแต่ละวัน โดยเฉพาะ เด็ก เยาว์วัย

IQ คืออะไร?

IQ หรือที่มาแปลเป็นภาษาไทยว่าความสามารถทางสติปัญญานั้นเป็นผลจากการประเมินความสามารถทางความรู้ ความจำ ความคิดบางด้านที่ประมวลมาจากสิ่งที่เด็กทุกคนน่าจะได้รับการเรียนรู้มา ดังนั้นผลของการวัดจากแบบทดสอบทางสติปัญญาจึงมักจะพบว่ามีความสัมพันธ์กับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เด็กที่มีความแตกต่างจากเด็กอื่นด้วยภาษา วัฒนธรรม เศรษฐกิจ สภาพภูมิศาสตร์จึงมักจะถูกเข้าใจผิดว่ามีสติปัญญาทึบ

ความหมายทางสติปัญญาจึงถูกตีความหลายมิติ โดยเฉพาะในปัจจุบันได้มีการตีความที่กว้างขึ้น เช่น ทฤษฎีของการ์ดเนอร์ หรือของสเตอร์นเบอร์ค ความเห็นเรื่องสติปัญญาของมนุษย์ยังไม่มีข้อยุติ แต่ทุกสังคมก็ต้องการวิธีการรู้จัก เข้าใจ พฤติกรรมทางปัญญาของเด็ก เพื่อหาวิธีพัฒนา

สมองของเราในแต่ละส่วนจะมีวิธีทำงานแตกต่างกัน มีหน้าที่ในเรื่องต่างๆเป็นระบบสานสัมพันธ์ ทำงานอย่างน่าพิศวงไม่น่าเชื่อว่าในแต่ละกิจกรรมเพียง 1 วินาที กระบวนการทางสมองก็สามารถดำเนินการ ตั้งแต่การรับข้อมูลด้วยความเร็วไม่น้อยกว่า 250 ไมล์ต่อชั่วโมง 

ความสลับซับซ้อนในการทำงานเป็นเหมือนองค์กรขนาดใหญ่ๆ ที่ทำงานอย่างเป็นระบบระเบียบชัดเจน จากเซลล์สมองในตำแหน่งต่างๆ ที่ทำหน้าที่ต่างกัน จากลักษณะรูปร่างของเซลล์ที่มีรูปร่างไม่เหมือนกัน บรรจุอยู่ในก้อนสมองที่มี Blueprint เรียบร้อยแล้วว่าสมองจะแบ่งเป็นกี่ชั้นกี่ซีก ขดกี่ขด และขดอย่างไร (ใครที่ขดมากเกินไปหรือขดไม่ถูกผังที่ออกแบบไว้ก็มีสิทธิเกิดความิดปรกติได้) เพราะแต่ละชั้น แต่ละซีก แต่ละเซลล์สมองมีหน้าที่ที่กำหนดมาเรียบร้อยแล้ว ที่จะให้องค์กรที่สลับซับซ้อนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

อย่างไรก็ตามในสภาพความจริงเราก็จะพบว่ามีคนจำนวนหนึ่งที่มีภาวะบกพร่องที่เกี่ยวพันกับการทำงานของสมอง อาทิ เห็นแต่ไม่สามารถจดจำภาพที่เห็นได้ ได้ยินแต่ไม่เข้าใจ มีปัญหาเรื่องการอ่านการคิดคำนวน  ปัญหาเรื่องการเคลื่อนไหว การทรงตัว การแยกแยะจุดเด่นของสิ่งต่าง  ปัญหาที่ไม่สามารถคิดเชิงระบบได้ สิ่งเหล่านี้ ภาวะความไม่สมบูรณ์ก็เกิดขึ้นได้จากปัจจัยหลายสาเหตุ เช่น การถูกกระทบกระเทือน พันธุกรรม สารเคมี ที่สำคัญคือโอกาสในการได้รับการกระตุ้น การใช้งาน หรือสิ่งเหลาจะเป็นตัวขับเคลื่อนให้สมองทำงาน

เราจะพบว่าคนบางคนมีปัญหาเรื่องของการรับรู้ความคิด ความเข้าใจใหม่ๆ, ปัญหาเรื่องของการเคลื่อนไหวร่างกาย, ปัญหาเรื่องของการบริหารจัดการ, มีสภาวะเครียด, ซึ่งส่งผลถึงพฤติกรรมการรับรู้ เรียนรู้ และการแสดงออกที่มาจากบกพร่องของเซลล์ กระบวนการการทำงานของสมอง, สารเคมีในร่างกาย, ต่อมฮอร์โมน ฯลฯ 

แนวทางในการบำบัดรักษามีตั้งแต่การใช้กระบวนการทางการแพทย์, จิตภาษา, การบำบัดด้วยสิ่งเร้าภายนอก ที่เชื่อว่าจะช่วยฝึกพื้นเซลล์ให้ดีขึ้น ที่มีศาสตร์หลายศาตร์ที่เข้ามาเกี่ยวข้องในการบำบัดเรื่องนี้เช่น การใช้Therapeutic Media (แสง, สี, เสียง, สื่อ, อาชีพ ฯลฯ) 

และจากงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับสมอง และการเรียนรู้พบว่าการกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวส่งผลต่อ กระบวนการทำงานของสมอง และการพัฒนาสมองได้อย่างน่าสนใจ อาทิ Dr. Dennison, Director of California’s Valley Remedial Group Learning Centers, ที่ California ได้ศึกษาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างสมองกับการทำงานของสมองส่วนต่างๆ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาสมองให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ไทยอาสัยการศึกษาภาคปฏิบัติ และผลการวิจัยพฤติกรรมของสมอง เช่น การทำงานของสมองที่ตอบสนองต่อสิ่งเร้าอย่างแตกต่างกัน และบังเกิดผลให้เกิดการแตกกิ่งก้านสาขาของเซลล์สมองที่เป็นการฟื้นฟูสภาพให้เซลล์ให้มีพลัง และใช้เซลล์ที่มีอยู่ทดแทนกลุ่มเซลล์ที่อาจถูกทำลายไปแล้ว นอกจากนั้นยังทำให้สมองได้รับการกระตุ้นระบบการไหลเวียนของสารเคมี ไฟฟ้า ฯลฯ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 

ข้อมูลจากกรณีศึกษาทั่วโลกรงมทั้งผลการวิจัยด้านศาสตร์แห่งการฟื้นฟูหลายแขนงทั้งในอดีต และปัจจุบันที่นำมาปะติดปะต่อกันจนเกิดศาสตร์หลายศาสตร์ เช่น Brain Gym, Brain Activation (อุษณีย์ อนุรทธ์วงศ์, 2551)

Brain Fitness คืออะไร?

Brain Gym ก็เป็นศาสตร์แขนงหนึ่ง ในสาขา Educational Kinesiology (ศาตร์แห่งการเคลื่อนไหวเรียกสั้นๆ Edu-K) ศาสตร์นี้ศึกษาเกี่ยวกับธรรมชาติของการเคลื่อนไหวว่าส่งผลอย่างไรกับการเรียนรู้ของมนุษย์  โดยมีมุนมองที่เน้นการกระตุ้นสมองแต่ละตำแหน่งโดยการใช้การเคลื่อนไหว

การกระตุ้นการทำงานของสมองในจุดต่างๆให้เซลล์สมองเกิดความจำดีขึ้น สะสมข้อมูล เก็บกักข้อมูลเป็นระบบขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ผลของ Brain Fitness 

• ทำให้สมองเกิดภาวะสมดุล

• เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง 

• ช่วยปรับเปลี่ยนวิธีคิด การแก้ปัญหาที่ไม่ใช่เป็นการใช้วิธีคิดจากความถนัดของสมองด้านใดด้านหนึ่ง

• ช่วยให้เกิดการติดต่อผู้อื่นได้ดีขึ้นเกิดความสามารถทางสังคมดีขึ้น

• ลดภาวะเครียด เนื่องจากขณะเกิดภาวะเครียดนั้นพลังงานและสารเคมีในสมองเกิดความไม่สมดุล สมานฉันท์ทำให้ส่งผลถึงวิธีคิด การตัดสินใจ รวมถึงโรคภัยทางร่างกายตามมา ช่วยทำให้เกิดพฤติกรรมทางอารมณ์ เกิดการผ่อนคลาย มีพลังงานในการทำงานเพิ่มขึ้น

• ช่วยเพิ่มออกซิเจนในสมอง

• ช่วยให่เล่นกีฬาและเคลื่อนไหวร่างกายได้ดีขึ้น 

• มีความจำดีขึ้น

ใครควรใช้ Brain Fitness

• ผู้บริหารระดับสูงที่ต้องวางแผน, แก้ไขปัญหา และสร้างสรรค์งานใหม่ๆ 

• ผู้ที่มีภาวะบกพร่องที่ส่งผลถึงการทำงานของสมอง หรือมีภาวะบกพร่องเพราะการทำงานของสมอง

• เด็กทุกวัย

• ผู้สูงวัย(เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของสมอง)

• บุคคลทั่วไป

มูลนิธิเพื่อนศิลปะสามารถจัดและปรับ Brain Fitness workshop ให้เหมาะสมกับองค์กรของท่าน